ตามรอยอารยธรรมลุ่มน้ำแม่หาด

ตามรอยอารยธรรมลุ่มน้ำแม่หาด

น้ำแม่หาด  เป็นแม่น้ำขนาดเล็ก  มีน้ำไหลตลอดปี  ขุนน้ำอยู่ในเขตตำบลแม่ลาน   อำเภอลี้  จังหวัดลำพูน  ไหลจากยอดเขาผ่านตำบลแม่ลาน  อำเภอลี้  จังหวัดลำพูน   ตำบลโปงทุ่ง  ตำบลดอยเต่า   อำเภอดอยเต่า   ไหลลงสู่น้ำแม่ปิงในเขตตำบลท่าเดื่อ  อำเภอดอยเต่า  จังหวัดเชียงใหม่  รวมเป็นระยะทางไม่ต่ำกว่า  ๑๐๐ กิโลเมตร

น้ำแม่หาดเป็นเสมือนสายเลือดของคนดอยเต่า  โดยเฉพาะดอยเต่าด้านทิศใต้   พื้นที่ตำบลโปงทุ่ง  ตำบลดอยเต่า  ได้ใช้น้ำแม่หาดหล่อเลี้ยงชีวิตมาโดยตลอด  ไม่ว่าจะใช้บริโภคอุปโภค ใช้ในการเกษตร ทำนาปลูกข้าว  ทำสวนลำไยสวนหอม สร้างรายได้ให้กับคนดอยเต่านับเป็นเงินหลายสิบล้านบาทต่อปี  และยังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์  มีทั้งกุ้งหอยปูปลา ให้คนดอยเต่าจับกินเป็นอาหารตลอดทั้งปี

นอกจากน้ำแม่หาดจะเป็นสายน้ำที่เปรียบเสมือนสายเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนดอยเต่าแล้ว ยังเป็นแหล่งอารยะธรรมที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของภาคเหนือ  เนื่องจากมีร่องรอยการถลุงเหล็ก และซากปรักหักพังสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ    โดยเฉพาะซากปรักหักพังของวัดวาอารามของคนยุคก่อน ๆ  ตั้งอยู่เรียงรายไปตามสายน้ำ  เริ่มแต่ขุนน้ำแม่หาดจนถึงปากแม่น้ำแม่หาดบริเวณลุ่มน้ำแม่ปิงเลยทีเดียว

อารยธรรมลุ่มน้ำแม่หาดตอนบน

พ่อหลวงตัน อดีตผู้ใหญ่บ้านผาต้าย  หมู่ ๑ ตำบลแม่ลาน  อำเภอลี้  จังหวัดลำพูน  ท่านอายุ  ๗๘  ปี  ได้เล่าถึงความเป็นมาของหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ลุ่มแม่น้ำแม่หาดตอนบน ซึ่งมีบ้านผาต้ายหมู่ที่ ๖   บ้านผาต้าย หมู่ ๑ บ้านหนองมะล้อ  บ้านห้วยทรายขาว  บ้านแม่ลาน  บ้านแม่ก๋องวะ  รวมถึงบ้านกองวะ  ล้วนเป็นหมู่บ้านที่ตั้งขึ้นใหม่ทั้งสิ้น  อายุของแต่ละหมู่บ้านน่าจะไม่ถึง  ๑๐๐  ปี  บ้านผาต้ายหมู่ ๖    เป็นหมู่บ้านแรก ๆ  ที่มาตั้งรกรากบริเวณลุ่มน้ำแม่หาดแห่งนี้   เดิมมาอาศัยอยู่เพียงสามหลังคา  เพื่อมาเป็นคนงานส่งอาหารให้ฝรั่งสองพี่น้องซึ่งมาสัมปทานไม้สักบริเวณนี้  พ่อหลวงตันเล่าว่า  บริเวณนี้เป็นดงป่าไม้สักที่อุดมสมบูรณ์ ต้นไม้สักบางต้นห้าคนโอบไม่จอด    คนงานที่มารับจ้างขนไม้ซุงด้วยล้อ  จะขนไม้ซุงล่องไปตามน้ำแม่หาดไปส่งที่แม่น้ำปิง  จากนั้นฝรั่งเขาจะทำแพไม้ซุงปล่อยลงน้ำ ให้ไหลลงตามน้ำปิง  จนถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ออกสู่อ่าวไทย  ตามลำดับ

การขนย้ายไม้ซุงในสมัยนั้นจึงเป็นที่ไปที่มาของบ้านหนองมะล้อ   คือ เดิมเขาเรียกว่า  หนองพักล้อ  คนงานขนไม้ซุงไปพักล้อ  พักวัว  บริเวณหนองน้ำ   จึงเรียกว่า หนองพักล้อ  แต่ปัจจุบันเพี้ยนเป็นหนองมะล้อ จริง ๆ  แล้วเวลานั้นมีบ้านผาต้ายหมู่ที่ ๖   เพียงหมู่บ้านเดียว  บ้านอื่น ๆ ยังไม่มี  บริเวณแถบนี้มีแต่ดงไม้สัก  หลังจากฝรั่งตัดไม้ไป  ผืนที่ป่ากลายเป็นที่โล่งเตียน เหมาะกับการเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ทำนาทำไร่  ผู้คนจากตำบลลี้  บ้านป่าหกน้อย  บ้านป่าหกหลวง บ้านม่วงคำ  บ้านม่วงสามปี๋ จากอำเภอเถินจังหวัดลำปาง ได้ย้ายมาจับจองที่ทำมาหากินพัฒนาเป็นหมู่บ้าน เช่น บ้านหนองมะล้อ  บ้านห้วยทรายขาว  บ้านแม่ลาน  อายุการตั้งหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านคงไม่เกิน  ๖๐  ปี  ส่วนบ้านผาต้ายหมู่ ๑  เป็นหมู่บ้านที่ขยับขยายจากบ้านผาต้ายหมู่ ๖  อายุคงไม่เกิน  ๖๐  ปีเช่นกัน

บ้านแม่ก๋องวะหมู่บ้านเดียวที่โยกย้ายหนีน้ำท่วมจากบริเวณลุ่มน้ำปิง ในปี  ๒๕๐๗  คนในหมู่บ้านย้ายมาจากหลายหมู่บ้าน เช่น บ้านโท้ง  บ้านหนองบัวคำ   บ้านท่าครั่ง  บ้านชั่ง  บ้านท่าเดื่อ  ได้เข้ามาอยู่สมทบกับคนอำเภอลี้ที่มาตั้งบ้านเรือนอยู่ก่อนแล้ว  อายุการตั้งหมู่บ้านก็คงไม่เกิน ๖๐ ปีเช่นกัน ถัดจากบ้านแม่ก๋องวะลงมาตามแม่น้ำแม่หาด  จะเป็นบ้านกองวะ  ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวที่อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอดอยเต่า  จังหวัดเชียงใหม่  บ้านกองวะเดิมเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยง  ภายหลังมีคนพื้นเมืองย้ายมาอยู่สมทบ  เท่าที่ทราบก็ยังถือได้ว่าเป็นหมู่บ้านสร้างใหม่เหมือนกัน

ถึงแม้ว่าจะเป็นหมู่บ้านที่สร้างใหม่ อายุไม่เกิน  ๖๐ ปี  บ้านผาต้ายหมู่ ๖  อายุไม่เกิน  ๑๐๐  ปี แต่ทุกหมู่บ้านดังกล่าว สามารถเล่าถึงอารยธรรมเก่าแก่ให้ฟังทุกหมู่บ้าน  เช่น  บ้านผาต้ายหมู่ ๖  จะอยู่ใกล้กับขุนแม่หาดมากที่สุด  จะมีวัดรอยบ่าตะ หนองจอกหรือรอยพระพุทธบาทหนองจอก  ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านผาต้ายทั้งสองหมู่บ้านให้การสักการะบูชาทุกปี  

มีถ้ำเก่าแก่  ชื่อว่าถ้ำอิด  ปากถ้ำจะมีอ่างน้ำลึกมากและมีน้ำอยู่เต็มตลอดทั้งปีไม่เคยแห้ง เหมือนกับว่าเป็นอ่างน้ำเป็นสิ่งกรีดขวางป้องกันไม่ให้คนข้างนอกเข้าในถ้ำได้โดยง่าย  (คนโบราณเรียกว่ายนต์น้ำ เป็นการป้องกันสิ่งของด้วยเวทมนต์คาถา ไม่ให้คนเอาสิ่งของมีค่าที่อยู่ในถ้ำได้ง่าย) ถ้าใครจะเข้าในถ้ำต้องสร้างแพข้าม ถ้าหากคิดไม่ดี  พูดไม่ดี พูดคำหยาบคาย น้ำจะเอ่อท่วมปากถ้ำไม่ให้คนเข้าไปได้  บางครั้งในวันเพ็ญวันพระจะมีเสียงฆ้องเสียงกลองดังออกจากปากถ้ำเป็นประจำ

ด้านทิศตะวันออกของบ้านผาต้ายหมู่ ๑  จะมีรอยพระพุทธบาทผาผึ้ง  และได้สร้างวัดพระพุทธบาทผาผึ้งเป็นวัดประจำหมู่บ้านใกล้ ๆ กับบ้านหนองมะล้อ จะมีซากกู่เก่าแก่ตั้งอยู่กลางทุ่ง  มีร่องรอยขุดหาของเก่า

สถานที่นี้ลุงอุด  ปันโปทา   คนบ้านหนองมะล้อ  อายุ  ๘๒  ปี

เล่าว่าบางครั้งจะได้ยินเสียงฆ้องเสียงกลองในวันศีลวันพระจากบริเวณนี้  คุณลุงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนโบราณชนเผ่าลั๊วะ  ชาวบ้านหนองมะล้อไม่กล้าที่จะมายุ่งเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้  เนื่องจากกลัวผีทำร้าย

ทางด้านทิศตะวันออกของบ้านหนองมะล้อจะมีถ้ำน้ำดิบขี้หม่า  ในถ้ำจะมีร่องรอยคนอาศัยอยู่  มีซากแกลบและมองตำข้าวและเชื่อว่าเป็นคนลั๊วะหนีศึกสงครามไปหลบซ่อนในถ้ำแห่งนี้ แล้วถูกฆ่าตายภายในถ้ำ  คุณลุงยังเล่าว่า คุณลุงมีสวนอยู่บริเวณนั้น  ครั้งหนึ่งคุณลุงนอนหลับในตอนกลางวันได้ฝันเห็นผู้หญิงสาวสามคนออกจากถ้ำมาลูบคลำ ไม่นานมีทหารสูงใหญ่สวมหมวกเหล็กออกมาตาม ในฝันเหมือนถูกผีอำ ดิ้นไม่ได้ ร้องก็ไม่ออก ลุงตกใจตื่นด้วยความหวาดกลัว  ลุงได้แต่เก็บความฝันไว้เพียงคนเดียวไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง กลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อ ลุงอุดยังบอกว่า  บนเขาลูกนั้นนอกจากจะมีถ้ำแล้ว ยังมีแร่เหล็ก  และแร่คล้ายแก้วใส  ๆ มีคนจะมาขอทำสัมปทานชาวบ้านไม่ยอมให้ที่หมู่บ้านห้วยทรายขาวมีหลักฐานสำคัญมาก สามารถบ่งบอกได้ว่ามีคนมาอาศัยอยู่บริเวณนี้มานาน ก่อนที่คนห้วยทรายขาวจะเข้ามาอยู่  เนื่องจากในเขตบริเวณบ้านเลขที่  ๔๗   หมู่ ๗      มีเตาถลุงเหล็กโบราณ  (เตาสะกัดหรือแยกเหล็กออกจากก้อนหิน)

อารยธรรมลุ่มน้ำแม่หาดตอนกลาง

ห่างจากบ้านกองวะ ลงมาตามน้ำแม่หาดเป็นระยะทาง  ๙  กิโลเมตร   จะเป็นกลุ่มหมู่บ้านอีกกลุ่มหนึ่ง อยู่ในเขตการปกครอง  ตำบลโปงทุ่ง  อำเภอดอยเต่า  จะมีบ้านโปงทุ่ง  บ้านโปง (บ้านโปงท่า) บ้านหนองเหม็น  บ้านงิ้วสูง  บ้านสันบ่อเย็น บ้านเกาะหลวง  กลุ่มหมู่บ้านนี้จะมีคนอยู่  ๒  เผ่า คือหมู่บ้านที่เป็นคนพื้นเมือง(คนไต) และชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง(คนยาง)  มีบ้านโปงทุ่ง  บ้านโปง บ้านสันบ่อเย็น เป็นหมู่บ้านคนพื้นเมืองเป็นหมู่บ้านสร้างใหม่ภายหลังน้ำท่วมเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๗

ลุงก่ำ ชาวบ้านเกาะหลวง อายุ ๘๙ ปี ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับชาวกะเหรื่ยง

ลุงก่ำ ชาวบ้านเกาะหลวง อายุ ๘๙ ปี ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับชาวกะเหรื่ยง

ลุงก่ำ ชาวบ้านเกาะหลวง อายุ ๘๙ ปี ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับชาวกะเหรื่ยง เพราะคนในหมู่บ้านส่วนมากได้อพยพหนีน้ำท่วมจากบ้านท่าครั่ง  บ้านชั่ง   บ้านแอ่น  บ้านหาดหยวก  บ้านหนองบัวคำ  อายุการสร้างหมู่บ้านคงไม่เกิน  ๖๐  ปี  ส่วนบ้านเกาะหลวง  บ้านหนองเหม็น   บ้านงิ้วสูง  บ้านดอยเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง  โดยเฉพาะบ้านเกาะหลวงจะมาอยู่ก่อนคนพื้นเมือง น่าจะมีอายุการตั้งบ้านเรือนมากกว่า  ๖๐  ปี  บอกไม่ได้ว่านานแค่ไหน  แต่ไม่น่าจะเกิน ๑๒๐  ปี

บริเวณแห่งนี้พอจะมีแหล่งอารยธรรมเก่าแก่อยู่รอบ ๆ หมู่บ้านบ้าง  แต่เป็นของคนรุ่นก่อนที่สร้างไว้  เช่น  วัดทุ่งป่าตาล  วัดทุ่งโขง  เวลานี้มีแต่ซากอิฐ มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมรกทึบขาดการดูแลรักษา  มีน้อยคนที่จะกล้าเสี่ยงไปขุดค้นของเก่าในวัดร้าง เนื่องจากกลัวผี เพราะคนเก่าคนแก่ในหมู่บ้านเล่าว่า  คืนวันเดือนเพ็ญมักจะมีเสียงฆ้องเสียงกลองดังจากวัดร้างเป็นประจำ  ทำให้คนส่วนมากขยาดกลัวไม่กล้าไปยุ่งเกี่ยว คงทิ้งไว้ให้อยู่ตามสภาพของมัน  ลุงก่ำ  ชาวกะเหรี่ยง อายุ  ๘๙  ปี  ได้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัดวาอารามของคนลัวะ  เนื่องจากบริเวณทุ่งนาในย่านนั้นเคยมี  โป่ง  ที่สัตว์เลี้ยงของพวกชาวบ้านเกาะหลวงไปกินดินโป่งติดโคนดินโป่งตายเป็นประจำ คนเฒ่าคนแก่เรียกโป่งนี้ว่า  โป่งลัวะ   วัดวาอารามบริเวณนี้ก็น่าจะเป็นของลัวะเช่นกัน

บริเวณวัดบ้านโปงท่า เคยเป็นบริเวณของวัดเก่าแก่   ชาวบ้านเรียกว่าวัดปู่จื๊อ  อยู่ติดกับน้ำแม่หาด  มีซากเศษก้อนอิฐอยู่ในทุ่งนารอบ ๆ วัด และได้มีการปรับพื้นที่บริเวณวัดร้าง พบพระพุทธรูปโบราณ จำนวนหนึ่ง ขณะนี้ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเป็นที่เรียบร้อยและเก็บรักษาไว้อย่างดี

นอกจากนี้ยังมีถ้ำเล็ก ๆ  อยู่ทางทิศใต้ของบ้านงิ้วสูง  ชื่อว่าถ้ำหม้อ  มีวัดถ้ำหม้อที่สร้างขึ้นใหม่  อายุคงไม่เกิน ๕๐  ปี  ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่หลงเหลือและบ่งบอกว่ามีคนมาอาศัยอยู่บริเวณนี้มาก่อน

Share this post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

scroll to top