ประหมู่บ้าน บ้านน้อย

บ้านน้อยเดิมตั้งอยู่ลุ่มแม่น้ำปิงมาหลายชั่วอายุคน มีตำนานพื้นบ้านล้านนาเล่าว่า พระยาแสนโทเป็นผู้ปกครองเมืองพิศดารนคร หรือเมืองฮอดปัจจุบัน มีธิดาสวยงามชื่อพระนางแอ่นฟ้า พระนางแอ่นฟ้าได้ไปรักไคร่กับลูกชายเสนาชื่อน้อยสิงห์คำ ปัญหารักต่างฐานันดรจึงเกิดขึ้น พระยาแสนโททราบเรื่องจึงเรียกคนทั้งสองมาว่ากล่าวตักเตือน หากฝ่าฝืนกฎมณเฑียรบาลมีโทษประหารชีวิต แต่ด้วยความรักทั้งสองที่มีต่อกันจึงตกลงหนีออกจากเมืองโดยควบม้าสีขาวไปกลางดึกสงัด ความทราบถึงพระยาแสนโท ได้กริ้วมากสั่งเสนาอำมาตย์และทหารออกติดตามพร้อมสั่งว่าหากเจอคนทั้งสองให้ประหารชีวิตเสีย

ขณะที่พระนางแอ่นฟ้าและน้อยสิงห์คำกำลังควบม้าไปนั้น ได้ยินเสียงเท้าม้ากระทบแผ่นดินสะเทือนเลือนลั่นตามมาติดๆทั้งสองเห็นจวนตัวจึงหยุดริมชายป่าปรึกษากันว่า อยู่ก็ตายหนีก็ตายเราจะกระโดดหน้าผาอันสูงชันนี้ตายด้วยกันทั้งสอง จึงเอาผ้าขาวผูกตาม้าไว้เพื่อไม่ให้ม้าเห็นหน้าผาจะวิ่งไปทางอื่น พระนางแอ่นฟ้าเห็นว่าน้อยสิงห์คำไม่กล้าบังคับม้าให้กระโดดหน้าผา จึงเป็นผู้ควบม้าแทนให้น้อยสิงห์คำนั่งช้อนท้าย จากนั้นพระนางแอ่นฟ้าได้ตีท้ายม้าอย่างแรง ม้าจึงวิ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วตกลงจากหน้าผาสูงลงสู่แม่ระมิงค์(แม่นำเปิง)จมหายไปทั้งม้าทั้งคน

ต่อมาหน้าผาแห่งนี้เรียกว่า”ผาวิ่งชู้”ร่างของน้อยสิงห์คำลอยไปติดท่าน้ำที่บ้านจึงเรียกที่นี่ว่า”บ้านน้อย” ร่างของพระนางแอ่นน้อยลอยไปติดอีกท่าน้ำเรียกว่า”บ้านแอ่น”ส่วนผ้าขาวที่ปิดตาม้าจมอยู่ในน้ำเรียกว่า”วังผ้าขาว”ส่วนร่างของม้าลอยไปติดไม่ไกลนักเรียกที่นั้นว่า”ท่าม้า”

บ้านน้อยเดิม ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลท่าเดื่อ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากแม่น้ำปิงประมาณ 300 เมตร 157 ครัวเรือน ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรและยากจนมากบางครอบครัวต้องกินหัวเผือกหัวมันแทนข้าว บางครอบครัวนำปลาย่าง ปลาร้าไปแลกข้าวที่บ้านบ่อหลวง อำเภอฮอด เพื่อที่จะนำมาเลี้ยงครอบครัว

ปีพ.ศ. 2507 ชาวบ้านน้อยและหลายๆ หมู่บ้านตกอยู่ในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะทางเขื่อนภูมิพล ประกาศให้ทราบว่าน้ำจะท่วมถึงหลักที่หมายแล้วให้ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่ด่วน ชาวบ้านได้ช่วยกันรื้อถอนเสาบ้านเรือน วัด และโรงเรียนทั้งน้ำตา อพยพมาอยู่กลางทุ่งนา (น้ำยังมาไม่ถึง)ทำอะไรไม่ถูก เมื่อตั้งสติได้ จึงประชุมปรึกษาหารือกันโดยพ่อน้อยใจคำ ชัยแก้ว ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้นำประชุมปรึกษาหารือว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหนบ้าง ผลการประชุมมีมติไปอาศัยกับญาติพี่น้องต่างจังหวัดต่างอำเภอก่อน ชาวบ้านบางกลุ่มไปอยู่อำเภอแม่แตง บางกลุ่มไปอยู่อำเภอจอมทอง บางกลุ่มไปอยู่อำเภอฮอด บางกลุ่มไปอยู่อำเภอลี้ เหลือชาวบ้านประมาณ 35 หลังคาเรือนเป็นกลุ่มรักบ้านเกิด ไม่ย้ายไปไหนจึงอพยพจากกลางทุ่งนามาอยู่ที่ป่า “บ้านเด่น” อยู่ได้ประมาณปีกว่า พื้นที่ทำเลไม่ค่อยดี ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้นทำมาหากินก็ลำบาก จึงชวนกันอพยพจากบ้านเด่นมาอยู่ที่แห่งใหม่ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “บวกตึง”

ปีพ.ศ. 2511 ทางกรมประชาสงเคราะห์โดยนิคมสร้างตนเองเขื่อนภูมิพล ได้จัดสรรที่ดินให้กับชาวบ้านเป็นแปลง ๆ ชาวบ้านน้อยจึงอพยพเข้ามาอยู่แปลงที่14 และสร้างบ้าน สร้างวัด สร้างโรงเรียนขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบันบ้านน้อยตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลบงตัน อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่

(ข้อมูลจากหนังสือประวัติวัดและหมู่บ้านในเขตน้ำท่วมเหนือเขื่อนภูมิพล อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ )

Share this post

scroll to top