ภาพดอยเต่าในอดีต เป็นภาพขาวดำได้มาจาก สำนักงานนิคมสร้างตนเองเขื่อภูมิพลบ้าง ได้มาจากวัดวังหม้อบ้าง ภาพอาจไม่คมชัดเท่าที่ควร เพราะเป็นภาพเก่าแก่จริง ๆ เป็นภาพถ่ายที่มีอายุไม่น้อยกว่า ๔๐ ปี บางภาพได้ถ่ายต่อจากกรอบรูปอีกทีหนึ่งยิ่งทำให้พร่ามัวมากขึ้น อย่างไรก็ตามภาพเก่า ๆ ที่ท่านจะได้ชมต่อไปนี้ จะบ่งบอกถึงชีวิตความเป็นมาของคนอำเภอดอยเต่า ครั้งหนึ่งที่คนดอยเต่าได้ตกทุกข์ได้ยาก อยู่ภายใต้ภาวะจำยอม อยู่ในสถานการณ์ที่คาดคิดไม่ถึงว่า น้ำจะท่วมบ้านท่วมเมืองชนิดที่ว่าปรับตัวปรับใจไม่ทัน เจ้าหน้าที่ของรัฐหลาย ๆ หน่วยงานได้มาบอก ได้มาชี้แจง ให้โยกย้าย เนื่องจากน้ำหน้าเขื่อนจะเอ่อขึ้นมาท่วมบ้านเรือน ชาวดอยเต่าบางส่วนที่เชื่อฟังได้โยกย้ายไปก่อนก็นับว่าโชคดีไป แต่คนที่ดื้อดึงไม่เชื่อฟัง พอน้ำเอ่อท่วมมาจริง ๆ เก็บข้าวเก็บของไม่ทัน หมูหมากาไก่ สัตว์เลี้ยงวัวควายลอยคอในน้ำขนแทบไม่ทัน บ้านช่องห้องหอไม่ได้รื้อถอน จมอยู่ในน้ำก็มี บางหลังได้รื้อถอนบ้างคงเหลือแต่เสาบ้านก็มี เวลานั้นน้ำเอ่อท่วมรวดเร็วมาก น้ำขยับขึ้นทีละคืบทีละศอก คนแก่บางคนตกใจถึงกับเป็นลมเป็นแล้งตายกระทันหันก็มี
จะโทษว่าคนดอยเต่าเป็นคนอวดดี ดื้อรัน ไม่เชื่อไม่ฟังเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ไม่ยอมขนข้าวขนของย้ายหนีน้ำก่อนที่น้ำจะมาท่วม ก็ไม่ได้ เนื่องจากเวลานั้น สื่อ ที่พอจะบอกให้ชาวบ้านได้รับรู้ถึงข่าวสารบ้านเมืองบ้างก็คือ วิทยุทรานซิสเตอร์ ชนิดที่ใส่ถ่านไฟฉาย ๓๘ ก้อน ต้องต่อสายอากาศด้วยไม้ซางสูง ๆ ถึงจะรับสัญญาณได้ วิทยุสมัยนั้นก็มีไม่กี่สถานนี ที่แน่ ๆ ในหมู่บ้านหนึ่งๆ จะมีสักเครื่องสองเครื่องเท่านั้น การที่จะประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านชาวช่องรับรู้และเชื่อฟังอย่างง่าย ๆ คงจะยากพอสมควร ยิ่งคนดอยเต่าที่เคยมีความเป็นอยู่ที่สบาย อยู่ติดกับลำน้ำปิง มีข้าวปลาอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ไม่เคยอดอยากปากแห้ง อยู่ดี ๆ เจ้าหน้าที่มาบอกให้เก็บข้าวเก็บของย้ายบ้านไปอยู่ในพื้นที่แปลงจัดสรร ซึ่งอยู่บนสันดอยไม่มีน้ำดื่มไม่มีน้ำใช้ และที่สำคัญกว่านั้น คือ คนดอยเต่าอยู่บริเวณลุ่มน้ำปิงจนเคยชิน รู้ว่าน้ำปิงจะท่วมอย่างมากที่สุดจะสูงระดับไหน แล้วอยู่ ๆ ก็มีคนบอกว่าจะมีน้ำไหลย้อนมาท่วมบ้านท่วมเรือน ชาวดอยเต่าส่วนใหญ่คงไม่เชื่อ คงคิดว่าคงจะเป็นหลอกลวงต้มตุ๋นเสียมากกว่า สุดท้ายเมื่อถูกน้ำท่วมจริงจึงขนข้าวขนของแทบไม่ทัน
เกริ่นนำมาอย่างยึดยาว เอาละตอนนี้ได้ดูภาพเก่า ๆ เสียที ภาพหน้านี้คงเป็นภาพน้ำท่วมที่ทำให้พื้นที่หลาย ๆ หมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ จนทำให้หลาย ๆ หมู่บ้านกลายเป็นน้ำทะเลสาปภายในชั่วเวลาข้ามคืน