คนดอยเต่า ลัวะบ่ไจ้ ไตบ่เจิง
ถ้าคนลุ่มน้ำแม่หาดไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากชนเผ่าลัวะ ปัญหาที่ตามมา คือ คนลุ่มน้ำแม่หาด คนลุ่มน้ำแม่ปิง หรือหมายรวมถึงคนทั้งอำเภอดอยเต่า เป็นชนเผ่าไหนกันแน่ ย้ายมาจากไหน มาอยู่ที่นี้นานเท่าไหร่แล้ว
จากการสอบถามสัมภาษณ์คนเฒ่าคนแก่ในอำเภอดอยเต่า เกี่ยวกับชาติพันธุ์ของคนดอยเต่ามีความคิดเห็นแตกแยกออกเป็น ๓ กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ ๑ ไม่แน่ใจว่าคนดอยเต่าเป็นชนเผ่าไหนกันแน่ เนื่องจากไม่มีหลักฐานบ่งบอกได้ว่า เป็นชนเผ่าไหน แต่ได้นับถือผีลัวะตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่ไม่มีอะไรที่แสดงว่าชนเผ่าลัวะ แม้แต่ภาษาพูดเช่น คำว่า พ่อ แม่ พี่ น้อง ยังพูดเป็นภาษาพื้นเมือง พูดภาษาลัวะไม่เป็น
กลุ่มที่ ๒ เชื่อว่าคนดอยเต่าสืบเชื้อสายมาจากลัวะจริง ๆ เนื่องจากพื้นที่อำเภอดอยเต่า เป็นแหล่งอารยธรรมของลัวะมาก่อน และคนในอำเภอดอยเต่าส่วนหนึ่งนับถือผีลัวะด้วย มีความเป็นไปได้ว่าจะสืบเชื้อสายมาจากลัวะ
กลุ่มที่ ๓ เชื่อว่า คนดอยเต่าเป็นคนไตโยน ไตยวน หรือคนพื้นเมืองเช่นเดียวกับคนพื้นเมืองล้านนาทั่วๆไปในภาคเหนือ เนื่องจากคนดอยเต่ามีภาษาพูด และภาษาเขียนเป็นภาษาพื้นเมืองล้านนา
หลังจากได้เข้าร่วมประชุมสัมมนาและรับนโยบายของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษาเชียงใหม่เขต ๕ ให้ครูตระหนักและเห็นความสำคัญของรากเหง้าของคนในท้องถิ่น และให้ครูการสร้างหลักสูตรท้องถิ่นขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาเรียนรู้ถึงรากเหง้าของตนเอง ผู้เขียนได้ใช้เวลาศึกษาถึงรากเหง้าของคนดอยเต่า เป็นเวลานานพอสมควร ได้สอบถามสัมภาษณ์คนเฒ่าคนแก่ ศึกษาจากอินเทอร์เนต ศึกษาจากแหล่งอารยธรรมต่าง ๆ ที่อยู่ในอำเภอดอยเต่า และศึกษาจากประเพณีวัฒนธรรมของคนดอยเต่า และชนเผ่าลัวะ เปรียบเทียบวิถีชีวิต คติความเชื่อ ประเพณีวัฒนธรรมทั้งสองชนเผ่า จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะภาษาพูด จะไม่มีคำใดที่เหมือนกันเลย ยิ่งภาษาเขียน คนดอยเต่าใช้อักษรเมืองล้านนาหรือตัวหนังสือเมือง ลั๊วะจะไม่มีภาษาเขียนมีแต่ภาษาพูด
คนดอยเต่าสวนหนึ่งที่นับถือผีลัวะก็จริง แต่ไม่ได้รับจารีตประเพณีมาทั้งหมด เช่น การเลี้ยงผีละมัง คนดอยเต่าจะไม่มี การเลี้ยงผีปู่แสะย่าแสะซึ่งเป็นผีต้นตระกูลของลัวะเชียงใหม่ การนับถือผีเป็นจารีตประเพณีของคนล้านนาทั่วไป ผีต้นตระกุลของคนดอยเต่าเรียกว่า ผีปู่ย่า จากการสอบถามคนเฒ่าคนแก่และได้ศึกษาค้นคว้าจากอินเทอร์เนต พบว่าคนสมัยก่อนมีการซื้อผีขายผี และนำผีมาเลี้ยง เช่น ผีกะ ผีมด ผีเม็ง ผีลัวะ เป็นไปได้ไหมว่า คนดอยเต่าส่วนหนึ่งได้ซื้อผีลัวะมาเลี้ยง เนื่องจากคนดอยเต่าอาจได้อพยพโยกย้ายมาจากที่อื่นในภาวะสงคราม ถูกกวาดต้อนมาอย่างกะทันหัน จึงไม่ได้อันเชิญผีปู่ย่ามาอยู่ด้วย เมื่อมาอยู่ดอยเต่าจึงขาดสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ จึงซื้อผีลัวะมาเลี้ยง เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจหรือช่วยปกปักรักษาลูกหลานให้มีความประพฤติที่ดีงาม ไม่กล้าประพฤติตนให้ผิดผี จึงนับถือผีลัวะสืบต่อ ๆ กันมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน คนดอยเต่ารุ่นหลัง ๆ ที่ยังนับถือผีลัวะตามบรรพบุรุษเลยให้คำตอบไม่ได้ว่า ตนเองเป็นลัวะหรือไม่ ถ้าเป็นลัวะทำไมถึงพูดภาษาลัวะไม่เป็น พูดเป็นแต่ภาษาไต จะตอบว่าเป็นคนไต ก็ตอบไม่ถูกในเมื่อตนเองนับถือผีลัวะ เข้าทำนองที่ว่า “ลัวะบ่ใจ้ ไตบ่อเจิง” บอกไม่ได้ว่าเป็นอะไรกันแน่ คนดอยเต่าทั้งอำเภอยังสรุปไม่ได้จริงๆว่า มีรากเหง้ามาจากไหน เป็นชนเผ่าใดกันแน่ หากปล่อยทิ้งไว้คงเป็นปัญหาของลูกหลานในวันข้างหน้า โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาต้องศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลให้ได้ เวลานี้คนเฒ่าคนแก่ที่พอมีความรู้หรือข้อมูลพอจะเล่าสู่กันฟังได้บ้าง หลักฐานบางอย่างพอเหลือให้เห็น รีบศึกษาค้นคว้าหารากเหง้าของตนเองให้ได้ แล้วนำมาเล่าสู่กันฟัง รวบรวมข้อมูล สรุปให้ได้ว่ารากเหง้าเหล่ากอของคนดอยเต่ามาจากไหน เป็นชนเผ่าใดกันแน่ แต่ละหมู่บ้านมาอยู่ดอยเต่าตั้งแต่เมื่อใด ก่อนที่หลักฐานต่างๆ จะเลือนหายไปตามกาลเวลา ถ้าหากคนเฒ่าคนแก่ที่พอจะบอกเล่าเก้าสิบได้ ท่านได้ล้มหายตายจากไป คนดอยเต่าจะสรุปไม่ได้เลยว่า รากเหง้าของตนเองเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงต้องย้ายมาอยู่ที่บริเวณนี้
จะเป็นลั๊วะเป็นไตได้ทั้งนั้น ที่สำคัญคนรุ่นลูกรุ่นหลานจะได้ศึกษาเรียนรู้และสืบทอดเอกลักษณ์ ศิลปวัฒนธรรมของปู่ย่าตายายได้อย่างถูกต้อง ก่อให้เกิดความรักความภาคภูมิใจในบ้านเกิดเมืองนอน สร้างสรรค์พัฒนาบ้านเมืองของตนเองให้เจริญรุ่งเรืองในวันข้างหน้าต่อไป
จะเป็นลัวะเป็นไตไทยทั้งผอง เป็นพี่น้องร่วมทุกข์และโศกศัลย์
ร่วมเกิดแก่เจ็บตายวายชีวัน จงร่วมกันสรรสร้างแต่ความดี
แต่ถ้ารู้รากเหง้าของเราแท้ ใครกันแน่ประจักษ์เป็นสักขี
ลูกหลานหลนคนหลังหวังทำดี เป็นศักดิ์ศรีรากเหง้าเผ่าตระกูล